ความต้องการในการบริโภคเนื้อโคในประเทศจีนมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นอาจทำให้ไม่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคได้เนื่องจากชาวจีนมีความชื่นชอบในการบริโภคเนื้อวัวเป็นอย่างมาก ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ ระบุว่าในปี 2566 ประเทศจีนมีกำลังการผลิตเนื้อวัว 7.53 ล้านตัน เพิ่มขึ้น ร้อยละ 4.8 ทั้งนี้ปริมาณการบริโภคสูงถึง 10.27 ล้านตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 4 ซึ่งปัจจุบันชาวจีน Gen Z นิยมหันบริโภคเนื้อวัวเพื่อลดน้ำหนักซึ่งมีประโยชน์ทางโภชนาการสูงและร้านอาหารในประเทศจีนส่วนมากเป็นประเภทปิ้งย่าง ชาบู ที่มีส่วนประกอบเนื้อวัวเป็นหลัก
สำนักงานศุลกากรแห่งชาติจีน ระบุว่า ปี 2566 ประเทศจีนมีการนำเข้าโคมีชีวิต จำนวน 147,661 ตัว คิดเป็นมูลค่ารวม 2,218.06 ล้านหยวน การนำเข้าส่วนใหญ่จะนำเข้าเนื้อวัวโคขุนเข้าสู่ทางมณฑลเลีบยชายฝั่งทะเลและเป็นมณฑลทางเศรษฐกิจของจีน โดยปี 2566 มณฑลที่นำเข้าเนื้อวัวที่มีปริมาณมากที่สุดในจีน ได้แก่มณฑลซานตง (477,070.1 ตัน) มณฑลกวางตุ้ง (463,411.6 ตัน) นครเทียนจิน (349,052.4 ตัน) นครเซี่ยงไฮ้ (298,448.7 ตัน)มณฑลเจียงซู (184,073.5 ตัน) มณฑลหูเป่ย (128,497.1 ตัน) มณฑลกุ้ยโจว (110,489.7 ตัน) มณฑลฝูเจี้ยน (103,198.9 ตัน) มณฑลเจ้อเจียง (86,555.2 ตัน) และ กรุงปักกิ่ง (82,676.2 ตัน) จากข้อมูลการนำเข้าเนื้อวัวโคขุนสู่ประเทศจีนโดยผ่านมณฑลต่างๆที่มีปัจจัยสำคัญหลายด้าน อาทิด้านการบริโภคกำลังซื้อกลุ่มเป้าหมายในนครปักกิ่ง นครเซี่ยงไฮ้ นครเทียนจินเนื่องจากเป็นเขตเศรษฐกิจ ด้านการนำเข้ามณฑลเหล่านี้เป็นศูนย์กลางนำเข้าและเป็นเมืองท่าจุดกระจายสินค้าหลัก ด้านการขยายตัวของธุรกิจร้านอาหาร ด้านการผลิตฐานปศุสัตว์ที่สำคัญ และแนวโน้มการรักสุขภาพที่หันมาเลือกโปรตีนจากเนื้อวัวแทนหมูและไก่ ซึ่งสะท้อนถึงโอกาสทางธุรกิจสำหรับผู้ส่งออกเนื้อวัวและอุตสาหกรรมอาหารในจีน
การส่งออกเนื้อวัวโคขุนไทยจึงมีโอกาสในตลาดจีนด้วยข้อได้เปรียบด้านราคาที่เเข่งขันได้ คุณภาพ และมาตรฐานความปลอดภัย โดยที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เปิดเผยข้อมูลว่า ว่าประเทศไทยมีเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อ 1.4 ล้านราย ส่วนใหญ่อยู่ภาคอีสาน ขณะที่ผลิตโคเนื้อได้มากกว่า 9.57 ล้านตัว และพยายามปรับปรุงพันธุ์โคเนื้อที่เลี้ยงในไทย ให้สามารถผลิตเนื้อที่มีคุณภาพเทียบเคียงกับเนื้อนำเข้าจาก ต่างประเทศหลากหลายสายพันธุ์มากขึ้น อาทิ เนื้อโคขุนโพนยางคำจากจังหวัดสกลนคร เนื้อโคราชวากิว นอกจากนี้ เนื้อโคไทยได้รับคัดเลือกเป็นเมนูต้อนรับผู้นำโลกใน APEC 2022 ขณะเดียวกันมีการปรับปรุงพันธุ์โคเนื้อ “โคดำลำตะคอง” จากนวัตกรรมการผสม 3 สายพันธุ์ ได้แก่ โคพื้นเมือง วากิว และแองกัส ซึ่งจากข้อมูลสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า ระบุว่าจีนมีข้อจำกัดในการนำเข้า อาทิ เป็นสายพันธุ์ลูกผสมพื้นเมือง แองกัส ชาร์โรเล่ส์ บราห์มัน ซิมเมนทอล แบรงกัส หรือพันธุ์พื้นเมือง ของไทย ลาว อินเดีย และมีน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 350 – 400 กิโลกรัม วัวต้องแข็งแรง กล้ามเนื้อแน่น แผ่นหลังมีเนื้อ เต็ม ผิวลื่นสวย และต้องปลอดโรคปากและเท้าเปื่อย (FDM) และโรคติดต่ออื่น ๆ หากเร่งมือและเตรียมความพร้อมสำหรับผู้ประกอบการและเกษตรกรไทยเพื่อส่งออกเนื้อโคขุนให้กับกลุ่มตลาดที่เติบโตเร็วนับว่าเป็นโอกาสของไทยในการส่งออกโคขุนไทยที่มีคุณภาพและได้รับการยอมรับในระดับสากล
ที่มา : https://thaibizchina.com/article/bicnng2024-05-24/
https://thaibizchina.com/article/bicnng2024-06-18/
https://tpso.go.th/news/2403-0000000012